จับหนุ่มฆ่าเผา2สาว ลวงจากพัทยา ไปป่าเชียงใหม่ กับไร่ที่ระยอง


เค้นหนุ่มผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง สารภาพฆ่าสาวพัทยาแล้วนำศพไปในไร่ที่ระยอง ขยายผลโยงไปถึงคดีฆ่าแล้วเผาสาวพัทยาทิ้งศพในป่าสารภี เชียงใหม่ หลังพ่อของสาวบาร์เข้าพบตร.ภาค 5 ระบุศพที่ถูกฆ่าเผาน่าจะเป็นลูกสาว ตร.ส่งตรวจดีเอ็นเอถ้าผลยืนยันเป็นลูกพ่อกันจริง จะอายัดตัวหนุ่ม ผู้ต้องหาดำเนินคดีฐานฆ่าคนตายเพิ่มอีกทันที เพราะวงจรปิดหลายจุดจับภาพผู้ต้องหามาเชียงใหม่กับสาวพัทยาแล้วหายตัวไป ก่อนจะมีคนพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเผาทิ้งในป่าที่สารภีในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน


จาก กรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ป่าละเมาะ หมู่ที่ 5 บ้านหนองแฝก ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ห่างจากถนนลูกรังเข้าไปประมาณ 10 เมตร ในป่าไมยราบ พบศพหญิงสาวอายุประมาณ 20-25 ปี ถูกไฟไหม้ร่างกายเกือบ 70% สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่น ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าผู้เสียชีวิตจัดฟันด้วยลวดสีเขียว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สารภี เจ้าของคดี สันนิษฐานว่าถูกลวงมาฆ่าแล้วเผา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


ความ คืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า คดีพบศพหญิงสาวถูกฆ่าเผาในท้องที่สภ.สารภีนั้น ขณะนี้คืบหน้าไปมาก โดย วันนี้มีบุคคลอ้างเป็นพ่อของน.ส.ลลิตา โชคชัชวาลย์ อายุ 25 ปี บ้านเดิมเลขที่ 3/4 หมู่ 6 ต.โพธิแทน อ.องครักษ์ จ.นครนายก มาพบเจ้าหน้าที่เพราะสงสัยว่าผู้เสียชีวิตจะเป็นบุตรสาว เนื่องจากบุตรสาวใส่เหล็กดัดฟัน และแขนขวาเคยหักใส่เหล็กดามไว้ โดยระบุว่าบุตรสาวทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในสถานบันเทิงที่พัทยา เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจดีเอ็นเอเก็บไว้ แล้วรอขั้นตอนการพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่


รองผบช.ภาค 5 กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากผกก.สภ.พัทยา จ.ชลบุรี แจ้งมายังตนว่า ตำรวจพัทยาจับกุมนายราชวัตร แก้วกลมรัตน์ อายุ 30 ปี ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ระหว่างสอบสวนนายราชวัตรยอมรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ได้ก่อคดีฆ่าหญิงสาวที่พัทยา แล้วนำศพยัดใส่กระเป๋านำไปเผาที่ไร่สับปะรดในจ.ระยอง เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมีผู้พบศพในวันรุ่งขึ้น ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีพบศพหญิงสาวถูกฆ่าแล้วเผาที่อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ดังนั้นจึงได้ส่งตำรวจภาค 5 เดินทางไปที่พัทยาเพื่อร่วมขยายผล เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุ การล่อลวงหญิงสาวของคนร้ายไปฆ่าแล้วยัดศพใส่กระเป๋านำไปเผา เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นที่จ.เชียงใหม่


พล.ต.ต.ปชากล่าวต่อ ว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายตัวและหลายพื้นที่พบว่า นายราชวัตรกับน.ส.ลลิตา เดินทางโดยรถบัสมาถึงสถานีขนส่งเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. แล้วขึ้นรถรับจ้างออกจากสถานีขนส่งไปด้วยกัน กระทั่งตำรวจสภ.สารภีได้รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดกระเป๋านำมาเผาทิ้งใน ป่าละเมาะ ในวันที่ 7 ส.ค.


พล.ต.ต.ปชากล่าวว่า สำหรับพฤติกรรมของนายราชวัตรเท่าที่ได้ข้อมูลจากตำรวจพัทยา ทราบว่าชอบอ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ไปหลอกลวงหญิงสาวตามบาร์ เบียร์และสถานบันเทิงในพัทยา โดยอ้างว่าอยากหาคู่ใจมาช่วยดูแลตนเองและทรัพย์สมบัติ สำหรับน.ส.ลลิตาคาดว่าน่าจะถูกนายราชวัตรหลอกลวงมาที่เชียงใหม่ก่อนจะกลาย เป็นศพถูกฆ่าแล้วเผา จากนั้นนายราชวัตรหลบหนีไปยังพัทยา จ.ชลบุรี กระทั่งถูกจับกุมข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และยอมรับสารภาพระหว่างถูกสอบสวนว่าเคยก่อเหตุฆ่าแล้วเผาหญิงสาวที่จ.ระยอง ส่วนคดีพบศพหญิงสาวถูกฆ่าแล้วเผาที่อ.สารภี ได้ส่งตำรวจภาค 5 นำหลักฐานเดินทางไปร่วมกับตำรวจพัทยาเพื่อสอบปากคำนายราชวัตรแล้ว


ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดในโครงการ "โปลิศอายส์" ของตำรวจภาค 5 ปรากฏภาพชัดเจนว่าน.ส.ลลิตาเดินทางมาเชียงใหม่กับนายราชวัตรแล้วหายตัวไป ประกอบกับคำให้การของบิดาของน.ส.ลลิตาระบุว่า บุตรสาวดัดฟัน และแขนขวาหักใช้เหล็กดามไว้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของน.ส.ลลิตาพบภาพของนายราชวัตรด้วย โดยน.ส.ลลิตาโพสต์ภาพตนเองกับนายราชวัตรลงในเฟซบุ๊ก ขณะนี้รอผลตรวจดีเอ็นเอจาก ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ ว่า ศพหญิงสาวที่พบถูกฆ่าแล้วเผานั้นคือน.ส.ลลิตาหรือไม่ หากผลการตรวจยืนยันว่าเป็นน.ส.ลลิตา ตำรวจสภ.สารภีจะอายัดตัวนายราชวัตรมาดำเนินคดีฐานฆ่าคนตายอีกคดีทันที

0 Response to "จับหนุ่มฆ่าเผา2สาว ลวงจากพัทยา ไปป่าเชียงใหม่ กับไร่ที่ระยอง"

Post a Comment