สุดรันทดชีวิตสองตายายถูกทิ้งกลางหมู่บ้าน!! อยู่กระท่อมผุพัง-ยายหกล้มเดินไม่ได้

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี ว่า พบสองตา-ยาย ปลูกกระท่อมอยู่เพียงลำพัง ไม่มีลูกหลานมาคอยดูแล ส่วนยายเกิดอุบัติเหตุหกล้มเดินไม่ได้มากว่า 3 เดือน ที่หมู่บ้านรวมไทย เลขที่ 157/1 ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

 เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง พบว่าบ้านหลังดังกล่าวปลูกเป็นกระท่อมอยู่ริมถนน ภายในบ้านพบ ตาช้อย พลจันทร์ อายุ 84 ปี นั่งอยู่หน้ากระท่อม โดยมียายเนียม บุญกลาง อายุ 72 ปี นอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ผุๆ พังๆ

 สองตายายเล่าให้ฟังว่า เป็นคนพื้นเพจากภาคอีสานมารับจ้างเป็นคนงานเฝ้าไร่ให้กับนายทุนคนหนึ่ง โดยปลูกบ้านอยู่ริมคลอง จนเมื่อปี พ.ศ.2540 เกิดพายุไต้ฝุ่นลินดา เข้า จ.ประจวบฯ น้ำป่าพัดเอาบ้านไม้หลังใหญ่ที่ยายเนียมกับสามีนอนเฝ้าอยู่หายไปกับสายน้ำ จากนั้นได้มาปลูกเพิงพักอยู่ข้างบ้านลูกสาว แต่ต่อมาลูกสาวเสียชีวิตลง ส่วนหลานๆ ก็แยกไปมีครอบครัวอยู่ที่อื่น ปล่อยสองคนตายายอยู่กระท่อมเพียงลำพัง

 โดยที่ผ่านมาทั้งคู่หากินด้วยการออกรับจ้างทำไร่ไปวันๆ และเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ยายเนียมเกิดหกล้มจนเป็นกระดูกทับเส้น ไม่สามารถลุกนั่งได้ เวลาจะขยับไปไหนก็ใช้วิธีคลาน ซึ่งปัจจุบันตาช้อยก็เริ่มร่างกายอ่อนแอ ทำงานรับจ้างไม่ไหว มีเพียงเงินเบี้ยคนชราเดือนละ 800 บาท บวกกับเงินของยายเนียม 700 บาท ก็ต้องเก็บออมไว้ใช้เท่าที่จำเป็น 

 พระรัตนเวที รองเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ วัดกุยบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยของมูลนิธิฯ ไปตรวจสอบ พร้อมทั้งนำข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรคและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตเบื้องต้นมามอบให้กับสองตายายพร้อมกับเตรียมให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆแล้ว





0 Response to "สุดรันทดชีวิตสองตายายถูกทิ้งกลางหมู่บ้าน!! อยู่กระท่อมผุพัง-ยายหกล้มเดินไม่ได้"

Post a Comment